Background



ข่าวประชาสัมพันธ์
สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง แนะเกษตรกรใช้ประโยชน์จากฟางข้าว
19 กุมภาพันธ์ 2551

6170


สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง แนะเกษตรกรใช้ประโยชน์จากฟางข้าว

           นายสุรศักดิ์ สุวรรณวงศ์ เกษตรจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า หลังเกษตรกรทำการเก็บเกี่ยวข้าวจะมีฟางข้าวเหลืออยู่ในนา ไร่ละประมาณ 960 กิโลกรัม ต่อฤดูกาลผลิต โดยในฟางข้าวมีธาตุอาหารที่สำคัญหลายอย่าง เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน ซิลิก้า แคลเซียม และแมกนีเซียม เมื่อฟางข้าวถูกย่อยสลาย ธาตุอาหารเหล่านี้จะถูกปล่อยกลับแก่ดิน เมื่อปลูกพืช พืชจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป หากเกษตรกรเผาฟางข้าว นอกจากสูญเสียธาตุอาหารในฟางข้าวไปโดยเปล่าประโยชน์แล้ว การเผาฟางข้าวยังก่อทำให้เกิดมลพิษ ส่งผลให้เกิดสภาวะโลกร้อนทั้งยังทำลายจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดินไปด้วย จึงขอแนะให้เกษตรกรนำฟางข้าวมาใช้ประโยชน์ เช่น นำมาเป็นอาหารสัตว์ เป็นวัสดุเพาะเห็ด ทำปุ๋ยหมัก วัสดุคลุมหน้าดิน คลุมโคนต้นไม้ ถึงแม้เกษตรกรไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ ก็ควรปล่อยฟางข้าวให้เน่าเปื่อยในแปลงนา ยังมีประโยชน์กว่าเผาทิ้ง การเผาฟางข้าวมีประโยชน์บ้างเช่นกัน ในกรณี เกิดโรคระบาดหรือศัตรูพืชระบาดรุนแรง เผาเพื่อทำลายศัตรูพืช แต่โดยรวมแล้ว มีผลเสียมากกว่าผลดีแน่นอน นายพะวิง ทองช่วย ประธานศูนย์บริการ และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ประจำตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง กล่าวว่าตำบลชัยบุรีได้รณรงค์ไม่เผาฝางข้าวมาหลายปี โดย อบต.ชัยบุรีสนับสนุนรถอัดฝางข้าว เพื่ออัดฟ่อนฟางเก็บไว้เป็นอาหารสัตว์ในยามขาดแคลน เช่นฝนแล้ง น้ำท่วม โดยนาข้าว 1 ไร่จะอัดฟ่อนฟางได้ประมาณ 40 ฟ่อน ราคาขายส่งฟ่อนละ 17 บาท รวมมูลค่าต่อไร่เป็นเงิน 680 บาท นอกจากนี้หากเกษตรกรชาวนาไม่เผาฟางข้าวติดต่อกันมากกว่า 2 ฤดู จะช่วยให้ดินอุดมสมบูรณ์ ลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้มากกว่าร้อยละ 20